เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมาครับ
ผมได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของ รร.นายร้อยตำรวจ พร้อมกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆนรต.ทั้งหญิงและชายอีกกว่า 160 ชีวิต เข้าร่วมภารกิจสำคัญอันดับ 1 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
หลังจากที่เคยปฏิบัติภารกิจลักษณะนี้มาแล้ว เมื่อครั้งงานถวายพระเพลิงพระศพสมเด็จพระพี่นางเธอฯ
"ภารกิจรับเสด็จ" ภารกิจอันทรงเกียรติของข้าราชการทุกหมู่เหล่า ไม่เว้นแม้แต่ตำรวจ ... แม้แต่ชาวบ้านสามัญชนเองก็ตาม ถ้าได้มีโอกาสรับเสด็จสักครั้ง ก็ถือว่าคุ้มค่ากับชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภาร
ครั้งงานสมเด็จพระพี่นางเธอฯนั้น ผมถือว่าเป็นจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว เพราะได้ทำหน้าที่เป็น "ตำรวจราชองครักษ์" ถวายอารักขาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ซึ่ง นรต.เท่านั้นที่ได้รับเกียรตินี้ นักเรียนนายร้อยเหล่าอื่นได้เพียงแต่ทำหน้าที่ "ชักลาก" พระศพ ซึ่งก็ถือว่ามีเป็นเกียรติยศสูงสุดของชีวิตไม่แพ้กัน
แต่ด้วยเพราะโบราณราชประเพณี...นักเรียนนายร้อยตำรวจ จึงได้ทำหน้าที่ถวายอารักขาใน "เขตราชวัตร" ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นใน ที่ประดิษฐานพระศพ
จังหวะช่วงเวลาเวรของผมเป็นเวลาพิธีพอดี พูดง่ายๆภาษาชาวบ้านว่า "เผาหลอก" ผมก็เลยได้มีโอกาส ...วันทยาหัตถ์ถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในชุดเครื่องแบบเกียรติยศนักเรียนนายร้อยตำรวจ หมวกยอด ติดเหรียญตรา... ซึ่ง นรต.รุ่นพี่ๆ หรือแม้แต่รุ่นน้องต่อไปอีกหลายสิบรุ่น อาจไม่มีโอกาสได้กระทำเช่นนี้
ครั้งนั้น...นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างหาที่สุดไม่ได้แล้ว สำหรับชีวิตผม
ที่เคยใส่ชุดทหารของพ่อและซ้อมทำความเคารพหน้ากระจก และคาดหวังมาตั้งแต่เด็กว่าจะได้มายืนถวายความเคารพเฉพาะพระพักตร์...
ในครั้งนั้น ฝันเป็นจริง... ผ่านมานานพอประมาณ ยิ่งพิมพ์ก็ยิ่งขนลุก
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
สำหรับครั้งนี้นั้น ต่างจากครั้งก่อนตรงที่เป็นการ "ส่งเสด็จ" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ เสด็จนิวัติพระราชวังไกลกังวล
แม้ไม่ได้สวมเครื่องแบบเกียรติยศ ไม่ได้สวมหมวกยอด ไม่ได้ติดเหรียญตรา แต่ความภาคภูมิใจและปลาบปลื้มนั้น มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
เวลาประมาณ 20.00 น. พวกเราตั้งแถวรอส่งเสด็จพี่แยกพุทธมณฑลสาย 7
ผมได้ยินคำพูดจากนายตำรวจปกครองและเพื่อนๆที่เคยมาว่า ครั้งที่แล้วพอท่านเสด็จผ่านตรงจุดที่เรายืนส่งเสด็จ รถพระราชพาหนะชะลอความเร็วกระทันหัน ไฟในรถเปิด แล้วสมเด็จพระนางเจ้าก็ทรงโบกมือทักทายพวกเรา
ครั้งนี้ผมก็หวังเช่นนั้น...
เมื่อรถตำรวจกรุยทางคันแรกผ่านหน้าแถว อันเป็นสัญญาณว่าขณะนี้ขบวนเสด็จอยู่ใกล้เข้ามาอีก 3 กิโลเมตร หางตาผมก็เหล่มองไปทางขวา ใจจดจ่ออยู่กับขบวนเสด็จที่จะตามมา
รถกรุยทางคันที่ 2 ผ่านหน้า ใจผมเริ่มเต้นเร็วขึ้น เพราะพระองค์ท่านอยู่ห่างออกไปเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น
และแล้วไฟวับวาวของขบวนเสด็จก็ส่องแสงแทงหางตาของผม นายตำรวจผู้ควบคุมแถวสั่ง "ถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางจ้าพระบรมราชินีนารถ ทางขวาระวัง!!"
รถขบวนที่ขับมาด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตามมาตรฐานขบวนเสด็จ ค่อยๆชะลอความเร็วลง ... "ชะลอแล้ว..." ในใจผมคิดด้วยความปิติ
จำได้แม่นยำ...รถคันที่ 3 ประดับธงมหาราช ธงตราครุฑอันเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า สมเด็จท่านทั้งสองประทับอยู่ในรถคันนี้ ค่อยๆเล่นผ่านด้านหน้าผม ไฟในเก๋งรถยนต์พระราชพาหนะสีเหลืองนวลสว่างไสว...
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ ทรงพระสรวลและโบกพระหัตถ์ทักทายพวกเรา
เสียง "ทรงพระเจริญ!!!" ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ มันไม่ได้มาจากการฝึก หรือนัดแนะให้ปฏิบัติ แต่มันออกมาจากใจของพวกเรา เหล่านักเรียนนายร้อยตำรวจ...ผู้ปลาบปลื้มและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณครั้งนี้
รถพระที่นั่งเคลื่อนผ่านพวกเราไปช้าๆ แล้วเร่งความเร็วขึ้นตามลำดับเมื่อผ่านแถวของพวกเราไป...
น้ำตาของตำรวจไทยตัวเล็กๆ คลอเบ้าด้วยความปลื้มปิติ
"ท่านชะลอรถ ท่านชะลอรถ..." ผมได้แต่คิดอยู่อย่างนี้วนไปวนมา...
...สถาบันนี้...คือสถาบันสูงสุดของประเทศ
เป็นสัญลักษณ์และศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย
ครูสอนภาษาจีนของผม ซึ่งท่านเป็นตำรวจจากสถาบันนายตำรวจยูนนาน เคยถามผมเมื่อครั้งที่ รร.นายร้อยตำรวจมีการหยุดยาว ท่านถามเป็นภาษาอังกฤษว่า "หยุดเนื่องในโอกาสอะไร"
ผมตอบท่านว่า "to celebrate for my king"
เชื่อหรือไม่ครับ ท่านพูดตอบกลับมาว่า "your king? ... my king too!"
ถ้าท่านได้ยินคำนี้จากปากคนต่างชาติ ท่านจะรู้สึกยังไงครับ...
ณ เวลานั้น ผมรู้สึกยิ่งกว่าที่ท่านรู้สึก... 100 เท่าครับ
1 ความคิดเห็น:
ชอบเขียนบันทึกเหรอคะเนี่ย
ไม่น่าเชื่อ !!!
เขียนเก่งมากมายค่ะ
จะเข้ามาอ่านบ่อย ๆ
ง้อ ๆ ๆ
หายงอนนะคะๆๆๆ
แสดงความคิดเห็น