สองคำนี้ลึกซึ้งครับ
มันจะเกิดคู่กันตลอด
นามธรรมเกิดก่อน แล้วแปรสภาพเป็นรูปธรรม...
เพื่อความไม่เครียด ขออธิบายง่ายๆ
นามธรรม ก็คือ สิ่งที่ไม่สามารถสัมผัสได้
แน่นอน...
รูปธรรม สัมผัสได้
Abstract
กับ
Concrete
อันที่จริงโลกนี้มี "นามธรรม" มากกว่า "รูปธรรม"
นามธรรมหลายอย่าง มนุษย์ยังไม่สามารถสื่อความหมายออกมาเป็นรูปร่างได้
เช่นของใกล้ๆตัว
อย่า่ง "ความดี"
"ความดี" เป็นนามธรรม เมื่อมนุษย์ต้องการสื่อให้เป็นรูปร่าง ก็มักจะมาในรูปของ "สีขาว"
แต่หารู้ไม่ ... ยังมีมนุษย์บางกลุ่มเชื่อว่า "สีขาว" นั้นไม่ดี
ขงจื๊อเชื่อว่าสีขาวคือความเศร้าและความตาย
สำหรับชาวอินเดีย สีขาวถูกสงวนไว้สำหรับเครื่องแต่งกายของสตรีที่สามีตาย
คนไทยเคารพนับถือสมเด็จพระนเรศวร...
พระนเรศวรประกาศอิสรภาพ ยกทัพไปตีหงสาวดี
ทรงเป็น "วีรกษัตริย์" สำหรับคนไทย เรายกย่องถึง "ความดี"ของพระองค์
แต่สำหรับคนพม่า...
ลองคิดในทางกลับกันดู คนพม่าก็คงรู้สึกกับพระนเรศวร ไม่ต่างจากที่เรารู้สึกกับ "บุเรงนอง"
แล้วอย่างนี้ ... จะเอาอะไรมาวัดว่าวีรกรรมของพระองค์เป็น "ความดี"
การกระทำเดียวกัน ... อาจ "ดี" และ "ร้าย" พร้อมๆกัน
ฉะนั้นแล้ว แม้เราจะพยายามใช้ "รูปธรรม" อธิบาย "นามธรรม" เท่าไร เราก็ไม่สามารถจำกัดความ "รูปธรรม" ได้อย่างถูกต้อง 100%
แปลกแต่้จริง...
สากลทั่วโลกกลับยอมรับและยึดถือ "รูปธรรม" มากกว่า...
พีรามิด คือ ความเป็นพระเจ้าของฟาโรห์
ทัชมาฮาล คือ ความรักของพระเจ้าชาห์ที่มีต่อพระมเหสีอรชุมันท์
กำแพงเบอร์ลิน คือ ความเป็นโลกเสรี กับโลกคอมมิวนิสต์
บ้านเราก็มี...
สุพรรณหงษ์ นารายณ์ทรงสุบรรณ
พาลีรั้งทวีป สุครีพครองเมือง
อนันตนาคราช เอนกชาติภุชงค์ ฯลฯ ทั้งหมดนี้คือ ความเป็นสมมติเทพของพระมหากษัตริย์ไทย
เมื่อทั่วโลกยอมรับนับถือ "รูปธรรม" ใช้่รูปธรรมอธิบายความหมายของ "นามธรรม"
เกียรติยศ ศักดิ์ศรี จึงกลายเป็น "เครื่องแบบ"
หน้าที่ ความรับผิดชอบ จึงกลายเป็น "ตราสังกัดกรมกอง"
เครื่องแบบชุดเต็มยศที่ท่านทั้งหลายเห็นผมแสดงขึ้นเป็นภาพประจำโปรไฟล์จึงเป็นตัวแทนแห่งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี หน้าที่ และความรับผิดชอบ
ที่ครั้งหนึ่ง...ผมเคยได้รับ
ครั้งหนึ่งในชีวิต...กับเกียรติยศอันสูงสุด
ครั้งหนึ่งในชีวิต...กับศักดิ์ศรีแห่งความเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ
ครั้งหนึ่งในชีวิต...กับหน้าที่อารักขาและถวายความปลอดภัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
และ
ครั้งหนึ่งในชีวิต...กับความรับผิดชอบต่อพระชนม์ชีพของพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า
ตำรวจน้อยคนนัก...ที่จะได้ใส่เครื่องแบบนี้
เครื่องแบบเต็มยศกรมพระตำรวจสีกากี
หมวกทรง Pith helmet ประดับยอด
อินทรธนูแข็งพื้นสีเลือดหมู
อกเบื้องขวาประดับเครื่องหมายความสามารถต่อต้านการก่อความไม่สงบ
อกเบื้องซ้ายประดับเหรียญตราประจำรัชกาล
ประดับสายคันชีพสะพายแล่งพาดบ่าซ้าย
เข็มขัดหนังสีขาวหัวโลหะตราโล่ห์เขน
ตำรวจน้อยคนนัก...ที่จะได้รับผิดชอบหน้าที่นี้
หน้าที่อารักขาและรักษาความปลอดภัยพระราชวงศ์
หน้าที่ในพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพตามโบราณราชประเพณี
หน้าที่ในเขตราชวัตร หรือเขตพระราชฐานชั้นใน
และที่สำคัญ...
ตำรวจน้อยคนนักที่จะได้วันธยาหัตขณะเพลงสรรเสริญพระบารมีบรรเลง
และมี"องค์พระบารมี"ที่เราสรรเสริญประทับยืนอยู่ต่อหน้าต่อตา...
น้อยคนนักจะเข้าใจความรู้สึกอันเป็น "นามธรรม" ทั้งหลาย
ที่ถ่ายทอดออกมาเป็น "รูปธรรม" ตามที่ได้เห็น...
รูปโปรไฟล์นี้ไม่ได้สื่อถึง "รูปธรรม"
แต่เป็น "นามธรรม" ที่ผมสุดแสนภาคภูมิใจ
ใครไม่เคย "สัมผัส" ไม่รู้หรอก!
3 ความคิดเห็น:
เยี่ยมมากเลยพี่เบนซ์
ชอบบบบๆๆๆๆๆๆ
เดี่ยวนัทจาแวะมาอ่านอีกเน้อ
พี่เบนซ์ๆๆๆๆๆๆๆๆ...
เปลี่ยนไดเรื่องใหม่ซะทีเน้อ
อยากอ่านแล้วเนี่ย
ที่ให้โหวดอ่ะค่ะ
ไม่มีถูกทุกข้อหรอค๊ะ ^^
แสดงความคิดเห็น